กรุงเทพฯ 15 พฤศจิกายน 2567 – บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีรายได้จากการขายที่ 1,873 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะต้องเผชิญภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ขณะที่รายได้ 9 เดือนประจำปี 2567 มีรายได้จากการขายเท่ากับ 6,221 ล้านบาท เติบโต 5.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ข้อมูลจาก นีลเส็น ประเทศไทย บ่งชี้ว่าตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในพื้นที่ภาคใต้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 มีอัตราการเติบโตสูงถึง 10.8% ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวและการเฉลิมฉลอง อันจะทำให้ตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในพื้นที่ภาคใต้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้รับลิขสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือโคคา-โคล่าในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จากเดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี (ประเทศสหรัฐอเมริกา) แถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ประจำปี 2567 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากจากการขาย เท่ากับ 1,873 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับยอดขายจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ทั้งนี้ เนื่องจากไตรมาส 3 เป็นช่วงฤดูมรสุม ซึ่งเป็นช่วงที่ยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคจะชะลอลงตัวตามวงรอบ ประกอบกับเกิดน้ำท่วมขึ้นหลายจุดในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนกำไรสุทธิประจำไตรมาส 3 ปี 2567 นั้น อยู่ที่ 129 ล้านบาท โดยลดลง 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากต้นทุนวัตถุดิบที่ราคาสูงขึ้น เช่น น้ำตาลและกระป๋องอลูมิเนียม

ทั้งนี้ผลประกอบการระยะเวลารอบ 9 เดือน ประจำปี 2567 บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีรายได้จากการขายเท่ากับ 6,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 471 ล้านบาท ลดลง 2.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 7.6% มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราหนี้สินต่อทุนเพียง 0.7 เท่า

พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ว่า “แม้ยอดขายในไตรมาส 3 จะชะลอตัวลงบ้างตามวงจรธุรกิจ แต่ถ้าพิจารณาจากข้อมูลของนีลเส็น ประเทศไทย จะพบว่าตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในพื้นที่ภาคใต้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 มีอัตราการเติบโตสูงถึง 10.8% โดยแบ่งเป็นกลุ่มเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมเติบโต 10.2% กลุ่มน้ำดื่มเติบโต 12.4% และกลุ่มน้ำผลไม้พร้อมดื่มเติบโต 17.9% ฉะนั้น เราจึงมั่นใจว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่ตามปกติก็จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว รวมถึงการเฉลิมฉลองของพี่น้องชาวไทยอยู่แล้ว ตลาดจะกลับมาคึกคักและทำให้ยอดขายของเราเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”

อนึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศ 4 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (กันยายน-ธันวาคม) ก่อนหน้านี้ว่า มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากกว่า 12 ล้านคน หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% และจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศได้สูงถึง 652,826 ล้านบาท