วันที่ 14 สิงหาคม 2546 เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2/2546 เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2/2546 ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแล้ว ปรากฏว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 17.94 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อน 5.96 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 24.9 บริษัทฯจึงใคร่ขอเรียนชี้แจงถึงสาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2546 มีผลกำไรลดลงเกินกว่า ร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ว่ามีสาเหตุดังนี้ 1. รายได้จากการขาย-สุทธิ ลดลง 21.6 ล้านบาท หรือ ลดลง 5.3% เนื่องจากผลกระทบจากสงครามในภาค ตะวันออกกลาง และการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ที่เกิดขึ้นในบางประเทศ เช่น สาธารณรัฐ- ประชาชนจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และแคนาดา ซึ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศหลายๆ ประเทศที่ตั้งใจหรือเตรียมจะ มาเที่ยวในประเทศไทยงดหรือเลื่อนการเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผลกระทบในทางลบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างมาก โดยเฉพาะในบางจังหวัด เช่น ภูเก็ต นอกจากนั้น จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงยังทำให้รายได้ของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ตลอดจน อุตสาหกรรมต่อเนื่องได้รับผลกระทบ และจำต้องประหยัดค่าใช้จ่าย บางครั้งในรูปของการปิดปรับปรุงสถานที่พักบางส่วน หรือปิด การให้บริการทั้งหมด หลายแห่งปลดหรือลดเงินเดือนเจ้าหน้าที่พนักงานในสถานประกอบการท่องเที่ยว ประชาชนบางส่วนจึงมี รายได้ลดลงไปด้วย ทำให้กำลังซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯลดลง 2. นอกจากนั้น ทางบริษัทฯ ยังเจอข้อติดขัดในการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าบางราย เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์บางประเภท (โดยเฉพาะในรูปแบบของขวด PET) ที่ทางบริษัทฯ รับมาจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มโคคา-โคลาอื่นมีสภาวการณ์ขาดแคลนอย่างมี นัยสำคัญในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ประกอบกับที่การติดตั้งเครื่องจักรผลิตผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของขวด PET ของบริษัทฯ เอง ล่าช้า ไปกว่าที่คาดไว้ จึงทำให้บริษัทฯ พลาดโอกาสในการขายไปมากพอสมควร ถึงแม้ว่าความต้องการของตลาดโดยรวมจะลดลงมา ตามคำอธิบายในข้อ 1 ข้างต้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การติดตั้งเครื่องจักรผลิตผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของขวด PET ได้เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทางบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าเครื่องจักรดังกล่าวจะทำให้ปัญหาในการจัดส่งสินค้าประเภทนี้หมดไป และจะเพิ่มโอกาสในการขายให้แก่บริษัทฯต่อไปในอนาคต 3. ปริมาณขายที่ลดลงทำให้ต้นทุนขายของบริษัทฯ ลดลงรวม 10.0 ล้านบาท หรือ 3.7% ซึ่งน้อยกว่าอัตราการลดของ รายได้จากการขาย เนื่องจากค่าใช้จ่ายคงที่ต่างๆ ไม่ได้ลดลงตามปริมาณขายที่ต่ำลง จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 32.6% ในไตรมาสที่ 2/2545 เป็น 31.4% ในไตรมาสที่ 2/2546 โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นรวม 120.9 ล้านบาท ลดลง 11.5 ล้านบาท หรือ 8.7% เมื่อเทียบกับกำไรขั้นต้น 132.4 ล้านบาท ในระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน 4. อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ ได้พยายามควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบจากรายได้และกำไรขั้นต้นที่ลดลง โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงรวม 6.0 ล้านบาท หรือ 5.0% โดยค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่ลดลงคือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตลาด และการขาย - 2 - 5. สำหรับดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น 0.5 ล้านบาท หรือ 187% นั้น มีสาเหตุหลักจากการที่ บริษัทฯ ได้เริ่มบันทึก ดอกเบี้ยเกี่ยวกับเครื่องจักรบรรจุขวดใหม่เป็นค่าใช้จ่ายตั้งแต่ต้นปี 2546 ขณะนี้สถานการณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในภาคใต้ได้เริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการควบคุมการระบาดของโรคทางเดิน หายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) โดยรัฐบาลต่างๆในภูมิภาคนี้เป็นไปอย่างได้ผล ประกอบกับความพยายามที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายในประเทศของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับภาคเอกชน (ซึ่งทางบริษัทฯก็ได้เข้าไปร่วมบุกเบิกโครงงาน "1 บริษัท 1 โครงการ" กับ ททท. ด้วย) ทำให้มีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวมากขึ้น และชาวต่างประเทศก็เริ่มลดความ กังวลใจและเริ่มกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยรวมทั้งภาคใต้ในระดับหนึ่งแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ และโปรดกรุณาทำการเผยแพร่ต่อไป ขอแสดงความนับถือ ร้อยตรี (ไพโรจน์ รัตตกุล) กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายสำนักงานกรรมการผู้จัดการ โทร. (0)2391-0169 ต่อ 108